8/22/2561

ศูนย์ดูแลผู้สูงอายุแสนสิริ โฮม แคร์

                             





บริการดูแลผู้สูงอายุ ผู้ป่วยพักฟื้นหลังผ่าตัด ที่มีโรคประจำตัวต้องดูแและทานยาต่อเนื่อง (เบาหวาน,ความดันสูง,มะเร็ง,กระดูกหัก,ข้อติด,การให้อาหารทางสายยาง,ผู้ป่วยเจาะคอ,การดูแลแผลกดทับ,การคำนวนสารอาหารที่ควรได้รับ/วัน)
แสนสิริ โฮม แคร์ ยินดีให้บริการทุกท่านทั้ง 3 สาขา
สาขาสุขุมวิท101/1
สาขาแบริ่ง 17/5
สาขาแบริ่ง 36
สาขาอนามัยงามเจริญ 23
รายละเอียดการบริการ
1.การดูแลและพยาบาลทั่วไป 24 ชั่วโมง
2.ที่พักปรับอากาศพร้อมสิ่งอำนวยความสะดวก เครื่องทำนำ้อุ่น ทีวี
3.อาหารหลัก 3 มื้อ อาหารว่าง 2 มื้อตามที่ผู้สูงอายุต้องการหรือสามรถทานได้ (ไม่เป็นผลเสียกับโรคประจำตัว)
4.ออกกำลังกายและกายภาพบำบัดพื้นฐาน โดยนักกายภาพ 2 ครั้ง/สัปดาห์
5.มีเตียงลม,ครื่องดูดเสมหะ ไม่คิดค่าบริการ ค่าไฟ(เป็นของที่เตรียมไว้ประจำศูนย์)
6.ไม่คิดค่าบริการ เปลี่ยสายสวนปัสสาวะ สายให้อาหาร ค่าทำแผลกดทับ อัตราค่าบริการ เริ่มต้นที่ 16,000/เดือน (ผู้ป่วยให้อาหารทางสายให้อาหาร 18,000-21,000/เดือน) *อัตราค่าบริการไม่รวมค่าเวชภัณฑ์ 2000บาท/เดือน#เลือกเป็นแบบเหมาจ่ายหรือคิดตามจริง
TEL.096-405-1562,02-041-3977
TEL.090-569-7945,095-834-5666

สำนักงาน 02-050-1900,02-746-4838
ดูข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่เวบไช
www.ศูนย์ดูแลผู้สูงอายุแสนสิริ.com

www.sansirinursingthailand.org

www.sansirihomecare.com

www.nursingthailand.org


ศูนย์ดูแลผู้สูงอายุ
www.nursingthailand.org















8/21/2561

ศูนย์ดูแลผู้สูงอายุ สาขาอนามัยงามเจริญ 23 พิเศษ16000/เดือน


ศูนย์ดูแลผู้สูงอายุพระราม2


ศูนย์ดูแลผู้สูงอายุแสนสิริ โฮม แคร์ สาขาอนามัยงามเจริญ 23 ราคา 16000บาท/เดือน ภายในมิถุนายน 2560
          ห้างหุ้นส่วนแสนสิริ โฮม แคร์ จัดตั้งขึ้นเพื่อดูแลผู้สูงอายุที่มีปัญหาสุขภาพระบบทางเดินหายใจ ระบบประสาท มีปัญหาด้านหารช่วยเหลือตนเอง โดยเน้นการดูแลเสมือนบ้าน บรรยากาศร่มรื่น เงียบสงบ สะอาด ถูกหลักอนามัย โดยมีพยาบาลวิชาชีพดูแลอย่างใกล้ชิดตลอด 24 ชั่วโมง อีกทั้งยังมีบุคลากรทางสุขภาพที่ช่วยฟื้นฟูสุขภาพผู้สูงอายุ อาทิเช่น นักกายภาพบำบัด นักโภชนากร เพื่อฟื้นฟูสมรรถภาพผู้สูงอายุให้กลับมาใกล้เคียงปกติมากที่สุด
สาขาใหม่ บรรยากาศแบบบ้านเดี่ยว 300 ตรว.ร่มรื่น เงียบสงบ เดินทางสะดวก ทางด่วนบางนา-กาญจณา-พระราม 2 ซอยโฮมโปรพระราม 2 ตรงข้ามโรงเรียนวัดท่าข้าม




ศูนย์ดูแลผู้สูงอายุ








ด้วยสถานที่กว้างขวางแบบบ้านเดี่ยว อากาศเย็นสบายร่มรื่น ไม่แออัด สนใจสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติม
คุณสุธัญญา 090-569-7945,02-050-1900
สำนักงานสาขาแบริ่ง 17/5  096-405-1562
สำนักงานสาขาวชิรธรรมสาธิต 55  02-746-4838,096-405-1562
สำนักงานสาขาพระราม 2-พุทธบูชา 24  02-118-3798,095-8693595
สำนักงานสาขาแบริ่ง 36  TEL. 096-405-1562 ID Line:0964051562

ศูนย์ดูแลผู้สูงอายุแสนสิริ โฮม แคร์ สาขาแบริ่ง 36




www.sansirihomecare.com

ศูนย์ดูแลผู้สูงอายุแสนสิริ โฮม แคร์ สาขาสาขาแบริ่ง 36ศูนย์ดูแลผู้สูงอายุแสนสิริ สาขาแบริ่ง 36 
ดำเนินการเปิดให้บริการควบคู่กับศูนย์กายภาพบำบัดครบวงจร พร้อมเปิดให้บริการสำหรับผู้สูงอายุ ที่มีโรคประจำตัว ต้องทานยาต่อเนื่องและควบคุมอาหาร ทั้งเบาหวาน ความมดัน ทำกายภาพบำบัดในผู้สูงอายุที่มีปัญหาการเคลื่อนไหวช่วยเหลือตัวเองได้น้อย โดยมีนักกายภาพบำบัดวิชาชีพ ดูแลต่อเนื่องทุกอาทิตย์ (วัน จ-ศ จะมีพยาบาลและผู้ช่วยพยาบาลทำกายภาพต่อเนื่องตามคำแนะนำของนักกายภาพวิชาชีพ) อากาศดี เป็นส่วนตัวอาคารชั้นเดียว พื้นที่ 400 ตรว. เป็นห้องแอร์ ทีวี น้ำอุ่น กว้าง โปร่ง บรรยากาศสวน ใกล้ BTSรูปแบบผู้รับบริการ1.ผู้สูงอายุที่ช่วยเหลือตัวเองได้น้อย/ไม่ได้ เสี่ยงต่อการเกิดอุบัติเหตุ
2.ผู้สูงอายุสมองเสื่อม(อัลไซเมอร์)
3.ผู้สูงอายุที่เป็นโรคหลอดเลือสมองตีบ ตัน แตก มีภาวะกล้ามเนื้ออ่อนแรง อัมพฤกษ์อัมพาต ฟื้นฟูกายภาพบำบัด
4.ผู้สูงอายุที่เป็นโรคเรื้อรังเช่น เบาหวาน ความดัน ทานยาต่อเนื่องและควบคุมอาหาร
5.ผู้สูงอายุหรือผู้ป่วยที่มีแผลเบาหวาน รักษาแผลกดทับ
6.ผู้ป่วยหลังผ่าตัดหลัง เข่า สะโพก พักฟื้นทำกายภาพบำบัด
7.ผู้ป่วยเจาะคอ ติดเตียง ให้อาหารทางสายยาง มีสายสวนปัสสาวะ
การบริการ
1. ผู้ดูแลตลอด 24 ชั่วโมง
 2. การดูแลความสะอาดร่างกาย เสื้อผ้า ของใช้ส่วนตัว
 3.  อาหาร 3 มื้อ พร้อมอาหารว่าง(อาหารปั่นสำหรับผู้ให้อาหารทางสายยาง)  
4. กายภาพบำบัด 1 ครั้ง/วัน(โดยผู้ช่วยพยาบาลตามอาการผู้สูงอายุหรือผู้ป่วย)
5.ที่พักปรับอากาศพร้อมสิ่งอำนวยความสะดวก เครื่องทำน้ำอุ่น ทีวี  
6.มีเตียงลม,ครื่องดูดเสมหะ ไม่คิดค่าบริการ ค่าไฟ (เป็นของที่เตรียมไว้ประจำศูนย์)
7.บริการกายภาพโดยบำบัดวิชาชีพ 1 ครั้ง/สัปดาห์(มีส่วนลดใช้บริการ"แสนสิริ คลีนิคกายภาพบำบัด")
8.ไม่คิดค่าบริการ เปลี่ยสายสวนปัสสาวะ สายให้อาหาร ค่าทำแผลกดทับ 
อัตราค่าบริการดังกล่าว ไม่รวม ผ้าอ้อม แผ่นรอง สายดูดเสมหะ อุปกรณ์ทำแผล  ไม่คิดค่าบริการ กรณีเปลี่ยนสายปัสสาวะ สายให้อาหาร
สอบถาม-ติดต่อเยี่ยมชมสถานที่  02-041-3977,096-405-1562,090-569-7945
ราคาเริ่ม 16,000 บาท/เดือน








2/21/2561

แสนสิริคลินิกกายภาพบำบัด

เสนอโปรแกรมกายภาพบำบัดขณะพักรักษาในศูนย์ราคาพิเศษ

ทางศูนย์ดูแลผู้สูงอายุแสนสิริ โฮมแคร์ เห็นประโยชน์ของการทำกายภาพบำบัดออกกำลังกาย ที่มีต่อผู้สูงอายุและผู้ป่วยทุกแบบ จึงดำเนินการเปิดศูนย์กายภาพบำบัดโดยมีนักกายภาพบำบัดวิชาชีพประจำ ที่เน้นการดูแลฟื้นฟู โดยไม่จำเป็นต้องเดินทางไปโรงพยาบาลหรือคลินิกกายภาพซึ่งเป็นการสิ้นเปลืองทั้งเงินและเวลา ในการเคลื่อนย้ายผู้ป่วยหรือผู้สูงอายุ





การทำกายภาพบำบัด มีผลต่อการทำงานของร่างกายแล้ว จะเห็นได้ว่า การออกกำลังสามารถทำให้ผู้สูงอายุ มีสมรรถภาพ ทางร่างกายดีขึ้น ชะลอการเสื่อมของอวัยวะต่าง ๆ และสามารถฟื้นฟูอวัยวะที่เสื่อมไปแล้วให้ดีขึ้นได้

                       ประโยชน์ของการออกกำลังกายต่อร่างกายผู้สูงอายุ อาจสรุปได้ดังนี้

1.    ทำให้มีสุขภาพดีทั้งร่างกายและจิตใจ
2.    ทำให้มีสมรรถภาพทางกายด้านต่าง ๆ สูง ทำงานต่าง ๆ ได้มากขึ้น ความเหนื่อย มีน้อยลง แรงกล้ามเนื้อมากขึ้น ฝึกการช่วยเหลือตัวเอง การทรงตัว
3.    ช่วยควบคุมน้ำหนักตัวและทรวดทรง
4.    ป้องกันโรคที่เกิดจากความเสื่อม เช่นโรคหลอดเลือดหัวใจตีบโรคความดันเลือดสูงโรคข้อเสื่อมต่าง ๆ
5.    ช่วยฟื้นฟูสภาพในผู้ที่มีโรคจากความเสื่อม เช่น เส้นเลือดสมองทำให้มีอาการอ่อนแรงหรือฟื้นฟูหลังผ่าตัด
6.   ผู้ป่วยฟื้นฟูและป้องกันภาวะแทรกซ้อนในผู้ป่วยหรือผู้สูงอายุติดเตียงที่มีภาวะเสี่ยงข้อติด กล้ามเนื้อฝ่อลีบ ปอดขยายตัวได้น้อย
7.   ช่วยควบคุมภาวะน้ำตาลในเลือดสูงการออกกำลังกายจะทำให้การควบคุมเบาหวานง่ายขึ้น ลดภาวะพึ่งพาอินซูลิน และทำให้น้ำหนักลด

การทำกายภาพสำหรับลูกค้าศูนย์ดูแลผู้สูงอายุแสนสิริ โฮมแคร์

แสนสิริ คลินิกกายภาพบำบัด

1/02/2561

ภาวะกลืนลำบากในผู้สูงอายุ



ภาวะกลืนลำบากเป็นภาวะแทรกซ้อนที่สำคัญ และพบได้บ่อยในกลุ่มผู้ป่วยโรคหลอดเลือดสมอง ส่งผลกระทบต่อผู้ป่วยหลายด้าน เช่น เป็นสาเหตุของการหายใจขัด ไอ หายใจไม่ออก ทั้งยังนำไปสู่ภาวะแทรกซ้อนต่างๆ เช่น ภาวะขาดน้ำ ขาอาหาร การสำลักอาหารเข้าปอดทำให้เกิดการติดเชื้อ มีการอุดตันของทางเดินหายใจส่วนบนเกิดขึ้นบ่อยๆ บางรายอาจรุนแรงถึงขั้นเสียชีวิต ดังนั้น การฟื้นฟูสมรรถภาพด้านการกลืนในผู้ป่วยโรคหลอดเลือดสมองจึงสำคัญมาก ได้รับเกียรติจาก คุณสมจิต รวมสุข นักกิจกรรมบำบัด หัวหน้างานแก้ไขการพูด ศูนย์สิรินธรเพื่อการฟื้นฟูสมรรถภาพทางการแพทย์แห่งชาติ กรมการแพทย์ กระทรวงสาธารณสุข มาแนะนำขั้นตอนและแนวทางการฟื้นฟูอันเป็นประโยชน์ ทั้งต่อผู้ป่วยและญาติผู้ดูแล






ภาวะกลืนลำบาก หมายถึง ภาวะที่ผู้ป่วยประสบความยากลำบากในการเริ่มต้นกลืนอาหาร หรือความยากลำบากในการเคลื่อนอาหารหรือของเหลว จากปากให้ผ่านคอหอย และหลอดอาหารไปสู่กระเพาะอาหาร อาการที่บ่งชี้ว่าอาจมีภาวะกลืนลำบาก ได้แก่ ไม่สามารถกลืนได้ มีอาหารตกค้างกระพุ้งแก้ม รู้สึกเจ็บขณะกลืน มีน้ำลายไหล เสียงแหบเครือหลังการกลืน อาหารไหลย้อนกลับออกทางปาก และไอหรือสำลักขณะกลืน เป็นต้น


ก่อนเข้าสู่กระบวนการฟื้นฟูแก้ไขปัญหาการกลืน ผู้ป่วยต้องได้รับการตรวจวินิจฉัยจากแพทย์ก่อนว่า ปัญหานั้นเกิดขึ้นในระยะใดของขั้นตอนการกลืน ซึ่งมีทั้งหมด 3 ระยะ ได้แก่

 ระยะช่องปาก (Oral phase) เป็นระยะของการบดเคี้ยวและคลุกเคล้าอาหารกับน้ำลายภายในช่องปาก  ทำให้อาหารชิ้นเล็กลงเหมาะกับการกลืน โดยมีลิ้นช่วยในการเคลื่อนย้ายอาหารจากช่องปาก ไปยังคอหอยและหลอดอาหาร


 ระยะคอหอย (Pharyngeal phase) เป็นระยะที่เกิดขึ้นหลังจากอาหารผ่านต่อมทอนซิลลงมายังคอหอย กล้ามเนื้อหลายมัดบริเวณคอหอยจะถูกกระตุ้นให้ทำงานร่วมกัน โดยหดตัวรับอาหารต่อจากลิ้นแล้วส่งต่อไปยังหลอดอาหาร ในระยะนี้หลอดลมจะถูกปิดกั้นชั่วขณะ เพื่อป้องกันไม่ให้อาหารไหลเข้าสู่หลอดลมและปอด


 ระยะหลอดอาหาร (Esophageal phase) เป็นระยะที่หลอดอาหารจะบีบตัวและลำเลียงอาหารไปสู่กระเพาะอาหาร เพื่อทำการย่อยต่อไป


ผู้ป่วยที่พบส่วนใหญ่มักมีปัญหาในระยะช่องปาก หรือระยะช่องปากร่วมกับระยะคอหอย ในกรณีนี้นักกิจกรรมบำบัดสามารถให้การแก้ไขฟื้นฟูได้ ยกเว้นในรายที่เกิดปัญหาในระยะหลอดอาหาร เช่น หลอดอาหารตีบ จำเป็นต้องได้รับการดูแลรักษาโดยแพทย์เฉพาะทาง


การบำบัดฟื้นฟู

โดยทั่วไปการบำบัดฟื้นฟู สามารถแบ่งได้เป็น 2 ส่วน คือ การบำบัดฟื้นฟูทางตรง และการบำบัดฟื้นฟูทางอ้อม

 การบำบัดฟื้นฟูทางตรง เช่น การฝึกบริหารกล้ามเนื้อในผู้ป่วยที่มีปัญหากล้ามเนื้ออ่อนแรง ควบคุมริมฝีปาก ลิ้น และขากรรไกรได้ไม่ดี เพื่อเพิ่มความแข็งแรงและเพิ่มช่วงการเคลื่อนไหวของกล้ามเนื้อ ตัวอย่างท่าบริหารดังกล่าว ได้แก่ อ้าปากกว้าง แลบลิ้น เม้มริมฝีปากแน่นแล้วคลายออก ทำปากจู๋สลับฉีกยิ้ม เป็นต้น


 การบำบัดฟื้นฟูทางอ้อม เช่น การดูแลด้านโภชนาการ เพื่อป้องกันไม่ให้ผู้ป่วยเกิดภาวะขาดสารอาหารและน้ำ เนื่องจากในการฝึกกลืนระยะแรกๆ ผู้ป่วยอาจไม่สามารถรับประทานอาหารได้อย่างเพียงพอ เพราะรับประทานได้น้อยในแต่ละมื้อ จึงควรจัดให้ผู้ป่วยรับประทานอาหาร 5-6 มื้อต่อวัน และอาจพิจารณาเสริมอาหารทางการแพทย์ร่วมด้วย อาหารสำหรับผู้ป่วยที่มีภาวะกลืนลำบาก ควรเป็นอาหารที่มีการดัดแปลงเนื้ออาหาร โดยพิจารณาจากลักษณะอาการของผู้ป่วยเป็นสำคัญ ในกรณีที่ผู้ป่วยเพิ่งเริ่มรับประทานอาหารทางปาก หรือไม่สามารถเคี้ยวอาหารหยาบได้ อาหารควรเป็นอาหารที่ได้รับการปั่นจนละเอียดเป็นเนื้อเดียวกัน เหมือนอาหารเด็ก ช่วยให้กลืนได้ง่าย เช่น โจ๊กปั่นข้น โยเกิร์ตครีม ไข่ตุ๋น ฟักทองบด กล้วยขูด เป็นต้น อย่างไรก็ตามควรหลีกเลี่ยงอาหารเหลว และอาหารที่มีเนื้ออาหารหลายรูปแบบ เพราะทำให้สำลักได้ง่าย เมื่อผู้ป่วยเริ่มเคี้ยวได้บ้าง อาจปรับอาหารเป็นโจ๊กข้น ข้าวต้มข้นๆ หรือไข่ลวก ซึ่งเราสามารถปรับเปลี่ยนหรือดัดแปลงรูปแบบอาหารได้ โดยพิจารณาจากพัฒนาการด้านการกลืนของผู้ป่วย


ซึ่งนักกิจกรรมบำบัดจะเป็นผู้ให้คำแนะนำในส่วนนี้ นอกจากนี้อาจมีการปรับท่าทาง ดูว่าท่าทางแบบใด ที่จะช่วยให้ผู้ป่วยกลืนอาหารได้ง่ายที่สุด ซึ่งต้องมีการทดสอบดูก่อนว่าท่าใดที่จะช่วยให้ผู้ป่วยตอบสนองต่อการกลืนได้ง่ายที่สุด


จากการเก็บข้อมูลพบว่า ผู้ป่วยที่ได้รับการบำบัดฟื้นฟูจะมีภาวการณ์กลืนที่ดีขึ้นกว่า 50% บางรายสามารถกลับมารับประทานอาหารได้ตามปกติอีกครั้ง ในขณะที่บางรายสามารถเปลี่ยนจากการรับประทานโจ๊ก มาเป็นข้าวสวยนิ่มๆ ได้ สำหรับระยะเวลาในการบำบัดจนเห็นพัฒนาการจะอยู่ที่ประมาณ 6-8 สัปดาห์ ทั้งนี้ต้องอาศัยความมุ่งมั่นตั้งใจของผู้ป่วย บวกกับความร่วมมือจากญาติผู้ดูแลร่วมด้วย ซึ่งปัญหาที่พบในการดูแลผู้ป่วยฝึกกลืน คือ การที่ผู้ดูแลแอบป้อนอาหารที่ถูกห้ามให้กับผู้ป่วยด้วยความสงสาร จุดนี้นับว่าเป็นอันตรายมาก เพราะอาจทำให้ผู้ป่วยสำลัก เกิดปัญหาปอดติดเชื้อตามมาจนต้องเข้ารักษาตัวในโรงพยาบาลกันมาหลายรายแล้ว จึงอยากให้ปฏิบัติตามคำแนะนำของผู้ให้การรักษาอย่างเคร่งครัด ทั้งหมดนี้ก็เพื่อประโยชน์ของตัวผู้ป่วยเอง



ศูนย์ดูแลผู้สูงอายุแสนสิริ  โฮม แคร์